แคนาดาเผชิญกับไฟป่าครั้งเลวร้ายสุด จากความแห้งแล้ง
เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางของแคนาดาเปิดเผยว่า เวลานี้ไฟป่ากำลังลุกไหม้ในจังหวัด และดินแดนเกือบทั้งหมดของแคนาดา และจากแบบจำลองสถานการณ์ไฟป่าของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าแคนาดามีความเสี่ยงเกิดไฟป่าที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไปจนถึงเดือนสิงหาคมนี้คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง
ด้านเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของแคนาดา เปิดเผยว่า ปีนี้เกิดไฟป่าลุกลามแบบผิดปกติ เนื่องจากเกิดการกระจายตัวของไฟป่าจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของประเทศ
ซึ่งปกติแล้วในช่วงเวลานี้ของปี มักจะเกิดไฟป่าเพียงด้านเดียวของประเทศ และส่วนใหญ่จะเกิดในด้านตะวันตก
ทั้งนี้รัฐควิเบก ทางตะวันตกของแคนาดาได้รับผลกระทบหนักที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากเกิดไฟลุกไหม้จากเหตุฟ้าผ่าหลายครั้ง และอัตราการเกิดไฟป่าที่แผดเผาพื้นที่ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป แคนาดาอาจทำสถิติมีพื้นที่ที่ถูกไฟป่าแผดเผาสูงที่สุดในปีนี้
รู้แล้ว! ทำไมปีนี้ร้อนตับแตก ไฟป่าปะทุ เหตุปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังแรง
ร้อนจัดกระตุ้นไมเกรน เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและวิธีดูแลตัวเอง
เช่นเดียวกับฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกของประเทศ ที่นั่นเผชิญกับเปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ทางการสั่งอพยพประชาชนในรัฐโนวาสโกเชีย
นักวิจัยจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของแคนาดา กล่าวว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยเห็นพื้นที่ถูกไฟป่าแผดเผาขนาดใหญ่ในช่วงต้นฤดูกาลแบบนี้มาก่อน และส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์นี้ เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
สำหรับเหตุไฟป่า ถือเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเป็นอันกับสองของแคนาดา รองจากน้ำท่วม โดยไฟป่าได้เผาทำลายบ้านเรือน และส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซใน รัฐแอลเบอร์ตา ซึ่งเป็นที่ผลิตน้ำมันดิบหลัก และทำให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายทั้งในแคนาดา และสหรัฐฯ
ขณะที่นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา ระบุว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าหวาดกลัวของผู้คนจำนวนมาก เพราะพวกเขาสูญเสียบ้าน และสถานที่ที่พวกเขาได้เห็นลูกๆ ของตัวเองเติบโต
ทั้งนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบพื้นที่ในแคนาดาถูกไฟป่าเผาทำลายไปแล้วกว่า 20 ล้านไร่ หรือประมาณ 13 เท่าของค่าเฉลี่ย 10 ปี ไฟป่า โดยล่าสุดพบไฟป่าเกิดขึ้น 413 จุด โดยในจำนวนนี้มี 249 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
ขณะเดียวกันมีประชาชนราว 26,000 คนทั่วประเทศที่ตกอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และมีประชาชนกว่า 120,000 คนต้องถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านชั่วคราว