พบ "โรคคลั่งกินคลีน" ภาวะอาการป่วยทางจิตที่คนรักสุขภาพอาจไม่รู้
แม้การเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นพฤติกรรมที่ดี แต่หากคุณเริ่มมีปัญหาทางอารมณ์จากการหาอาหารคลีนกินไม่ได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการป่วยทางจิตที่เรียกว่า Orthorexia (ออร์โธเร็กเซีย) ซึ่งน้อยคนจะรู้จักและเข้าใจว่ามันคือภาวะความผิดปกติ
โดย Orthorexia เป็นพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติ ซึ่งแม้จะไม่ได้ถูกจัดไว้ในคู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (DSM) แต่แพทย์เริ่มตรวจพบภาวะนี้เพิ่มขึ้นในหมู่คนไข้
โดยผู้ป่วยจะมีความกังวลเกี่ยวกับอาหาร จะคำนึงถึงและเลือกกินเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเคร่งครัด และส่วนใหญ่จะมีอาการของโรคย้ำคิดย้ำทำร่วมด้วย
เจนนิเฟอร์ โรลลิน นักบำบัดและผู้ก่อตั้งศูนย์รักษากลุ่มโรคการกินผิดปกติ ในรัฐแมรีแลนด์ หวังว่าสักวันหนึ่ง โรคคลั่งกินคลีนจะได้บรรจุอยู่ในคู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (DSM) แต่ดูเหมือนขั้นตอนจะค่อนข้างล่าช้า โดยผลการศึกษาเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2023 ชี้ให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 3 ใน 10 มีสัญญาณของโรคคลั่งกินคลีนแล้ว
ปัจจุบัน โรคนี้ยังไม่ค่อยมีคนพูดถึง หรือไม่คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีกับสุขภาพเป็นหลักเมื่อคนขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะอาการนี้ บ่อยครั้งจึงเผลอชื่นชมคนที่มีหลักการเข้มงวดในการกิน จนลืมมองไปว่าคนคนนั้นอาจเริ่มถอยห่างจากสังคมและน้ำหนักตัวลดฮวบ
ตามปกติ กลุ่มโรคการกินผิดปกติจะมีรากฐานเหมือน ๆ กัน คือ ความบกพร่องทางพันธุกรรม ประกอบกับปัจจัยสภาพแวดล้อมต่าง ๆ และมักเกี่ยวข้องกับวินัยการกินที่เคร่งครัดเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการนับแคลอรี่ กำหนดช่วงเวลาในการกิน หรือดูส่วนประกอบในอาหาร
เมื่อผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคการกิน ยึดมั่นกับการกินแต่ของที่มีประโยชน์กับร่างกายเท่านั้น จากพฤติกรรมก็อาจกลายเป็นความชอบ ไปจนถึงความหมกมุ่น
ด้าน เจสัน วูด คนไข้ที่มีภาวะคลั่งกินคลีน เล่าว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รายชื่ออาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพของเขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนรายชื่ออาหารที่เขาคิดว่าดีต่อสุขภาพก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีว่าเขาต้องออกจากงานปาร์ตี้เพราะไม่สามารถหาอะไรที่กินได้ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกเครียดมาก
ผู้ป่วยโรคคลั่งกินคลีนบางคน จะเริ่มเอาเรื่องภาพลักษณ์มาผูกติดกับวินัยในการกินของตัวเอง โดยเชื่อว่ายิ่งกินคลีน ภาพลักษณ์จะยิ่งดูดีขึ้น และเนื่องจากโรคการกินผิดปกติ มีรากฐานเหมือน ๆ กัน บางครั้งคนที่เป็นโรคคลั่งกินคลีนจึงมักเป็นโรคอื่น ๆ ควบคู่ด้วย เช่น โรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอสำหรับคนกลัวอ้วน และโรคคลั่งผอม
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดหากคุณอยากจะกินสลัดสักจานเพื่อสุขภาพ แต่หากคุณเริ่มคิดว่าคุณกินสลัดได้อย่างเดียวเท่านั้น นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหา
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าการกินแบบไหนยังอยู่ในเขตเขตของการกินที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะคำว่า “ดีต่อสุขภาพ” ก็ให้คำนิยามได้ยาก ช่วงทศวรรษที่ 1990 การกินอาหาร healthy หรือกินคลีน จะหมายถึงอาหารที่ไขมันต่ำ แต่ตอนนี้ ผู้คนเริ่มมองว่าอาหารที่โปรตีนสูง ไขมันสูง คาร์บและน้ำตาลต่ำ เป็นอาหารที่มีประโยชน์ และบางคนก็หันไปให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของอาหารเป็นอันดับแรก เช่น ต้องเป็นอาหารออร์แกนิก และไม่ใช่อาหารที่มาจากพืชหรือสัตว์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม
เมื่อเราทุกคนมีความแตกต่างกัน ทางเลือกสำหรับอาหารสุขภาพของแต่ละคนก็ต่างกันไป ตามแต่ช่วงเวลา ความต้องการ และบริบทของเราในช่วงเวลานั้น ๆ ฉะนั้น ทางออกที่ดีที่สุดที่ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำได้ คือ การฟังความต้องการของร่างกายเป็นหลัก และเมื่อนึกถึงสุขภาพ อย่าลืมว่าไม่ได้มีแค่เรื่องอาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ชีวิตและสุขภาพที่สมดุล ยังรวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว การได้ใช้เวลาทำตามความฝันและสิ่งที่รัก การได้สนุกกับกิจกรรมและการออกกำลังกาย รวมถึงความสงบสุขในจิตใจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากคุณมัวแต่เสียเวลาคิดว่าควรกินอะไรในแต่ละวันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ หลักการของคนคลั่งกินคลีนก็มักจะทำให้คนเหล่านั้นต้องถอยห่างจากสังคม ต้องพลาดโอกาสในการได้กินข้าวและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เพียงเพราะตนเองมีพฤติกรรมการกินที่ต่างออกไป
วิธีการรักษาโรคคลั่งกินคลีนไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เพราะค่อนข้างคล้ายคลึงกับวิธีรักษาโรคการกินผิดปกติอื่น ๆ แต่อุปสรรคสำคัญ คือ การขาดความรู้ในเรื่องนี้ ทำให้หลายต่อหลายครั้ง ตัวผู้ป่วยและคนรอบข้างไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คืออาการของโรค
ผู้ป่วยโรคคลั่งกินคลีนอาจต้องพึ่งทั้งนักบำบัดและนักโภชนาการ อีกทั้งยังต้องปรับเปลี่ยนมุมมอง จัดระบบความคิดเรื่องสุขภาพเสียใหม่ ซึ่งครอบครัวและคนรอบข้างก็มีส่วนสำคัญในกระบวนการนี้ด้วย